หน้าโทรม หมองคล้ำ ไม่สว่างกระจ่างใส

สาเหตุต่างๆ ที่ทำให้เกิดปัญหาผิวหน้ามองคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ผิวแพ้ง่าย ซึ่งนำไปสู่ปัญหาหน้าโทรม ไม่สดใส เกิดจากอะไรบ้าง ติดตามได้จากบทความนี้นะคะ

7 สาเหตุของหน้าหมองคล้ำ เกิดจากอะไร ?

หากเรารู้สาเหตุของปัญหาผิวโทรม หน้าหมองคล้ำ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง เราก็จะสามารถป้องกันและแก้ไขได้อย่างตรงจุด ทำให้ไม่เกิดปัญหาหน้าโทรมหมองคล้ำกลับมาให้ต้องกลุ้มใจซ้ำแล้วซ้ำอีกจนทำให้ต้องสูญเสียความมั่นใจ

1. ผิวหน้าหมองคล้ำจากแดด สาเหตุแรกและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวหมองคล้ำ คือ ผิวหมองคล้ำจากแดด ที่ทำให้ใบหน้าและผิวพรรณดูโทรม ไม่สดใส เนื่องจากผิวผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น เพื่อปกป้องผิวจากการได้รับแสงแดดมากเกินไป รวมถึงรังสี UV ที่ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาล ทำให้หน้าคล้ำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
   
   คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยทาครีมกันแดด หรือทาแค่ครั้งเดียวตอนแต่งหน้าออกจากบ้าน ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อการปกป้องผิวจากรังสี UV เพราะครีมกันแดดส่วนมากจะปกป้องผิวได้ในช่วง 2 ชั่วโมงแรกเท่านั้น
   
   ดังนั้นหากต้องออกแดดระหว่างวัน แนะนำให้ทาครีมกันแดด หากไม่สะดวกแบบครีม ปัจจุบันมีกันแดดแบบสเปรย์ เป็นอีกตัวช่วย ป้องกันปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ ปัญหาฝ้า กระ สีผิวไม่สม่ำเสมอ และริ้วรอยได้อีกทางหนึ่งค่ะ
   
   
2. อายุที่เพิ่มขึ้น ทำผิวเสื่อมสภาพ หมองคล้ำ อายุที่เพิ่มขึ้นก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำ จากการเสื่อมสภาพของผิว ทั้งคอลลาเจนและอีลาสติน รวมไปถึงผิวเริ่มผลัดเซลล์ช้าลง ส่งผลให้ผิวเกิดความหมองคล้ำ เกิดริ้วรอยและฝ้า และผิวเริ่มหย่อนคล้อยมากขึ้นด้วย
   
   โดยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนช่วงอายุ 30 ปี ขึ้นไป หากใครที่อยู่ในช่วงวัยนี้ และต้องเผชิญกับแสงแดด แต่ป้องกันผิวได้ไม่ดีพอ ก็จะมีโอกาสเสี่ยงเกิดฝ้าได้ง่าย
   
   
3. ดื่มน้ำน้อย ไม่รับประทานผักผลไม้ การดื่มน้ำและรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การดื่มน้ำไม่เพียงพอและรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์มากๆ รวมถึงไม่รับประทานผักผลไม้ จะทำให้เกิดปัญหาผิวมากมาย เช่น หน้าคล้ำ โทรม ผิวขาดน้ำ ไม่มีความชุ่มชื้น ผิวแห้งกร้าน ผิวเหี่ยวย่น ไม่สดใส โดยเฉพาะผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอรี่ ฝรั่ง มะละกอ สับปะรด เป็นต้น
   
   
4. นอนดึก นอนไม่เป็นเวลา ทำผิวโทรม ใครนอนดึก พักผ่อนที่ไม่เพียงพอ มีผลทำให้ผิวโทรม และหมองคล้ำได้ครับ เพราะร่างกายของเราจะหลั่งโกร๊ทฮอร์โมน (ฮอร์โมนที่ช่วยในการซ่อมแซมและดูแลร่างกาย) ในช่วงเวลาที่เราหลับสนิท โดยเฉพาะในช่วงเวลา 22.00 – 02.00 น. หากคุณนอนดึก อดนอน หรือนอนไม่เป็นเวลาในช่วงเวลาที่ฮอร์โมนทำงาน ก็จะทำให้ผิวไม่ได้รับการซ่อมแซมตามที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ผิวหน้าดูไม่สดใส ผิวหมองคล้ำ ตาคล้ำ แลดูแก่ก่อนวัยได้
   
   
5. สภาพอากาศ สภาพอากาศเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวเสียได้ โดยเฉพาะสภาพอากาศที่หนาวเย็นหรือแห้งมาก เช่น การอยู่ในห้องแอร์เป็นเวลานาน ในห้องมีความชื้นต่ำ จะทำให้ผิวแห้ง แตก เป็นขุย หน้าคล้ำลง รวมไปถึงปัญหาผิวลอก แพ้ง่ายและผิวหนังอักเสบ
   
   ดังนั้นในช่วงฤดูหนาว หรือต้องอยู่ในสภาพอากาศเย็น ๆ ควรงดผลิตภัณฑ์ประเภทการผลัดเซลล์ผิว แล้วมาเน้นที่การบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นเป็นหลักแทน โดยเลือกใช้ครีมที่เน้นการอุ้มน้ำในผิว เช่น กลีเซอรีน (Glycerine) โจโจ้บาออยล์ (Jojoba oil) หรือ เซรามายด์ (Ceramide) เป็นต้น ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ และแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ผิวแห้งระคายเคืองมากขึ้น
   
   
6. ไม่สครับผิวหน้า หรือ ผลัดเซลล์ผิว ปัญหาผิวหมองคล้ำส่วนหนึ่งอาจมาจากมีเซลล์ผิวเก่าตกค้างบนผิว จนเกิดการสะสม ทำให้ผิวหมองคล้ำ หยาบกร้าน รูขุมขนกว้าง และดูดซึมครีมบำรุงได้ไม่ดี การสครับผิวหน้าจึงเป็นการช่วยกำจัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ผิวหน้าจึงดูสดใสขึ้น และเป็นการเปิดทางให้ครีมหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวซึมซาบเข้าสู้ผิวได้ดีขึ้น
   
   แนะนำให้สครับผิวสัปดาห์ละครั้ง แต่มีข้อควรระวังคืออย่าขัดถูแรง หรือทำบ่อยจนเกินไป เพราะอาจเป็นการทำร้ายผิว ทำผิวสูญเสียความชุ่มชื้นมากเกินไป
   
   นอกจากการสครับผิวแล้ว คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่า ที่มีผสมของ Vitamin C หรือ AHA ก็จะช่วยให้ใบหน้าขาวใส ไม่หมองคล้ำ แต่ต้องระวังอีกเช่นกัน โดยควรระวังผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีสารเคมีอันตรายบางอย่างที่เป็นส่วนผสม อาจมีสรรพคุณช่วยให้ผิวขาวขึ้นจริง แต่หากใช้ปริมาณมากเกินไปอาจทำให้เกิดอันตรายและผลข้างเคียงได้ ไม่ว่าจะเป็นรอยไหม้ รอยแดง ผื่นแพ้ และหน้าคล้ำ
   
   รายชื่อสารที่อย. ประกาศห้ามใช้เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง ได้แก่
   - สารปรอท
   - สารไฮโดรควิโนน
   - สเตียรอยด์
   - กรดเรติโนอิก
   
   
7. ความเครียด ความเครียดเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองมาก หน้าโทรม ผิวคล้ำ ที่หลายคนมักมองข้าม ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงเมื่อมีความเครียด จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้ต่อมไขมันใต้ผิวหนังผลิตไขมันออกมามากขึ้น เป็นสาเหตุของการเกิดสิว เกิดจุดด่างดำ ทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำ แนะนำให้พยายามลดความเครียดลง หาวิธีผ่อนคลายสมอง ซึ่งวิธีที่ง่ายที่หมอแนะนำคือการนอน ฟังเพลงเพราะๆ ออกไปพบปะเพื่อนฝูง

เมื่อรู้ถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ใบหน้าคล้ำ ไม่มีราศี ดูโทรมแล้ว คุณควรค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว และหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เพื่อให้ผิวกลับมาดูสดใสอีกครั้ง

4 วิธีแก้ปัญหาหน้าหมองคล้ำ และ ช่วยฟื้นฟูผิวหน้าหมองคล้ำให้กลับมา สดใส ขาวกระจ่างขึ้นได้

1. ทำความสะอาดผิวหน้า การทำความสะอาดผิวหน้าให้สะอาด เป็นวิธีพื้นฐานแต่มีความสำคัญมาก ห้ามละเลยเด็ดขาด ต่อให้กลับจากทำงานเหนื่อยแค่ไหน ก็ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอน มีคนจำนวนไม่น้อยที่มีการแต่งหน้า ลงรองพื้น ทุกวัน ดังนั้นหากไม่ทำความสะอาด จะส่งผลให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกบนใบหน้า รวมถึงทิ้งสิ่งสกปรกลงบนหมอนที่นอน เมื่อสะสมนานวันเข้า ก็จะเกิดสิวและการอุดตันของรูขุมขน ตัวการทำผิวหน้าหมองคล้ำ
   
   วิธีทำความสะอาดผิวหน้าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดเครื่องสำอางโดยตรง จากนั้นถึงล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง และควรใช้โทนเนอร์เช็ดผิวเพื่อลดความแห้งตึงของผิว แนะนำให้ใช้โทนเนอร์ที่ไม่แอลกอฮอล์ จากนั้นค่อยทาครีมบำรุง
   
   
2. ทาครีมบำรุงผิวหน้า การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ดี และบำรุงผิวเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวแข็งแรงสุขภาพดี กระจ่างใสขึ้นได้ แนะนำให้เลือกใช้ครีมบำรุงผิวที่ได้มาตรฐาน ผ่านการทดสอบและได้รับรองจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแล้วว่าปลอดภัยกับผิว โดยเฉพาะครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของ AHA , Vitamin C หรือ Retinoid ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวหน้าดูสว่าง
   
   
3. พอกหรือมาส์กหน้า การมาส์กหน้า หรือพอกหน้า เป็นหนึ่งในวิธีดูแลผิวหน้า ที่สามารถทำได้ทุกเพศ ทุกวัน ช่วยให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตได้ดี ผิวหน้าจึงดูสว่างใสขึ้น สามารถทำได้ทั้งสูตรธรรมชาติ ที่มีการแชร์ข้อมูลอย่างกว้างขวาง ทั้งน้ำผึ้ง แตงกวา มะเขือเทศ โยเกิร์ต ใช้ได้หมด
   
   ข้อดีคือช่วยคืนความสดชื่นให้ผิวได้ทันทีหลังทำ ส่วนใครที่มีเวลาน้อย ต้องการความสะดวกสบาย ปัจจุบันมีแผ่นมาส์กหน้า หรือครีมมาส์กวางขาย หลากหลายยี่ห้อ แนะนำให้เลือกมาส์กที่มีส่วนผสมของโคลนเบนโทไนท์ที่มีคุณสมบัติขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ใต้ผิวหนังชั้นนอกสุดได้ด้วย
   
   
4. วิตามินอาหารเสริม การรับประทานวิตามินอาหารเสริม มีผลช่วยให้ผิวดูขาวใสได้ครับ โดยเฉพาะวิตามินซี ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง และช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งกระจ่างใสขึ้
   
   นอกจากนี้ยังมีวิตามินในกลุ่มบำรุงผิวเช่น สารสกัดจากเมล็ดองุ่น (Grape seed extract) คอลลาเจน (collagen) โคเอนไซม์คิวเทน (coenzyme q 10) เป็นต้น โดยควรเลือกรับประทานยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ มีคุณภาพ ได้มาตรฐานและมี อย. ที่สามารถตรวจสอบได้เท่านั้น
   
   ส่วนวิตามินจากอาหารก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะวิตามินซีจาก ผักและผลไม้ต่าง ๆ เช่น ส้ม มะละกอ สตรอเบอร์รี่ มันเทศและมะพร้าว เป็นต้น
   

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแนะนำช่วยเรื่องผิวสว่างใส

Nudinar ASTA GLUTA ลดเลือนและชะลอการเกิดริ้วรอย ยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวเข้ม ล็อคความชุ่มชื้นให้ผิว

ข้อมูลผลิตภัณฑ์

Phyto Apple & Grape Seed Extract ช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวต้นกำเนิด ทำให้สีผิวมีความสดใส ไม่หมองคล้ำ

ข้อมูลผลิตภัณฑ์